« เมื่อ: ธันวาคม 26, 2015, 06:15:39 am »
(ถอดความจากคลิป)
ธรรมะจากพระพุทธเจ้า วันที่ 26 ธันวาคม 2558
ตอนที่ 138 **กำลังใจอยู่ที่ไหน**
+ +
เมื่อพระยาธรรมิกราชได้เข้าเฝ้านอบน้อมต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทูลถามคำถาม ::
“ กำลังใจของคนเรานั้น.. แท้ที่จริงอยู่ที่ไหน ? "
พระพุทธองค์ได้ทรงเมตตาแสดงธรรมตอบกลับมา ดังนี้ว่า…
- - - -
พระยาธรรมเอ๋ย.. กำลังใจของคนเรานั้น แท้ที่จริงก็อยู่ในตัวของเรานี่แหละลูก เพียงแต่ขึ้นอยู่กับว่า ใคร บุคคลผู้ไหน..จะเอากำลังใจของตนไปตั้งไว้ที่ตรงไหน ก็เท่านั้นเอง
แท้ที่จริงแล้ว กำลังใจก็ต้องอยู่ที่จิตที่ใจเรานี่แหละ…
เพียงแต่บางคนชอบเอาไปฝากไว้กับภายนอก-- ฝากไว้กับทรัพย์สินเงินทองบ้าง ไว้กับบุคคลที่รักที่พอใจบ้าง ไว้กับลูก กับสามี กับภรรยา กับพ่อแม่พี่น้อง เพื่อนฝูง
เอาไว้ในภายนอก เอาไว้กับลาภยศสรรเสริญ เอาไว้กับสิ่งต่างๆ ที่อยู่ภายนอกนั้น
-- จนทำให้ตนต้องเป็นทุกข์.. เมื่อบุคคลเหล่านั้นไม่มีกำลังใจให้กับเรา --
พระยาธรรมเอ๋ย.. กำลังใจของคนเรานั้น ขึ้นอยู่กับเราเองต่างหากเล่าลูก-- ว่าเราจะเอาไปตั้งไว้ในส่วนไหน
แต่ลูกเอ๋ย.. การที่เรานั้นเอากำลังใจของตน-ไปไว้กับสิ่งภายนอกทั้งหลายนั้น..
...ย่อมอาจทำให้เราต้องผิดหวัง เสียใจ
/ หมดกำลังในการที่จะเดิน / ที่จะสู้ต่อไป
/ หมดกำลังในสิ่งที่เราจะต้องเผชิญ ผ่านพ้นต่างๆทั้งหลาย
แต่ถ้าหากว่าเรานี้ ฝึกกำลังใจไว้ในจิตในใจตน และดูกำลังใจที่แท้จริง ว่าเป็นแบบไหน
*กำลังของใจ* ก็คือ "ความเข้มแข็งในจิต" ของเรา ทำให้เรานั้นรู้สึกมีกำลังขึ้นมา ที่จะสู้กับสิ่งต่างๆ ฟันฝ่ากับสิ่งทั้งหลายทั้งปวง
เมื่อเรามีสิ่งต่างๆทั้งหลายที่เป็นองค์ประกอบภายนอก เป็นสิ่งที่เราฝากกำลังใจเอาไว้เข้ามาเติมเต็ม-- เราก็ดูเหมือนจะมีกำลังของจิตของใจ ที่จะทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ มีแรงของใจเกิดขึ้นมาทีเดียว
... แต่หากว่าไม่มีสิ่งเหล่านั้น เราก็จะรู้สึกว่าจิตใจนั้นหมดแรง ไม่อยากจะเดินต่อไป ทำอะไรก็ไม่อยากจะทำ
เจอกับปัญหาเล็กๆน้อยๆ เราก็จะรู้สึกว่า "มันหมดแรง"
แต่พระยาธรรมเอ๋ย.. หากว่าเรานี้ เอากำลังใจของเราให้มีอยู่ในใจ ในตัวของเรานั้น โดยการพักจิตพักใจ ..ด้วยการนั่งสมาธิ -- น้อมพลังความสงบมาไว้ในจิตในใจของเรา จนจิตใจของเรานั้นก่อเกิดความสงบสุขในจิตใจ
-- ทีนี้จิตของเราเมื่อได้พักความสงบแล้ว.. จิตนั้นก็จะน้อมเอาพลังมาเติมเต็มในจิตดวงนั้น ได้มากขึ้นๆ --
เมื่อจิตของเรามีกำลัง มีพลังของจิตใจเกิดขึ้นมา..ใจของเรานั้นก็จะสว่างขึ้น และไม่สนใจกับสิ่งต่างๆทั้งหลาย ที่ผ่านมา หรือจะผ่านไป เพราะจิตใจของเรานั้น- "เข้มแข็ง" พอแล้ว
เรามีพลังของจิตมากพอที่จะปล่อยวาง กับสิ่งต่างๆทั้งหลาย..
+ ที่มันมี หรือว่ามันไม่มี
+ มันได้มา หรือไม่ได้มา
+ คนจะด่าเรา เราก็ไม่เป็นทุกข์อะไร
+ คนจะดีกับเรา เราก็จะไม่ลุ่มหลงในความดีนั้น จนทำให้เราต้องกลับมาเป็นทุกข์ในภายหลัง...
จิตของเราจะตั้งมั่นด้วยความมีพลังในจิต กำลังใจนั้น ก็จะเต็มอยู่ในใจของเรา
จึงไม่จำเป็นที่จะต้องคอยกำลังใจ-- จากที่นั้น หรือที่นี้ // สิ่งนั้นหรือสิ่งนี้.. เข้ามาเติมให้เรานั้นมีกำลังขึ้นมา
แต่ใจของเรามีพลังด้วยการนั่งสมาธิ ด้วยการดูที่ใจ ปฏิบัติที่ใจ
ทำใจของเราให้สงบ และมีกำลัง-- **เราจึงสามารถที่จะยืนหยัดด้วยตนเองได้**
พระยาธรรมเอ๋ย.. การเดินทางของดวงจิตนั้น ยังยาวไกลนัก.. ลูกเอ๋ย
ก่อนมาเกิด.. เราเป็นใครมาก็ไม่รู้
ดวงจิตนั้นก็มาแต่เพียงผู้เดียว ไม่เห็นจะมีใครมาให้กำลังใจกับเราเลย
ไม่เห็นว่าจะมีใครมาคู่กับเราเลย ไม่ว่าจะเป็นคู่ครอง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนฝูง หรือจะเป็นพ่อแม่พี่น้อง เป็นสิ่งของข้าวของต่างๆ ไม่เห็นจะมีใครมาร่วมคู่กับเราเลย -- เราก็มาอย่างโดดเดี่ยว !
ฉะนั้นแล้ว.. เราจะไปเฝ้ารอกำลังจากบุคคลผู้อื่น ทำไมเล่าลูก
ชีวิตของเรา ก็เพิ่งจะมามีพ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อน
มีสิ่งของ ข้าวของ ในช่วงเวลาที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์นี้เอง..
และช่วงเวลาของการเป็นมนุษย์นี้.. ก็สั้นนัก
สิ่งทั้งหลาย บุคคลทั้งหลาย ที่มีอยู่ แต่สักว่ามี // สมมุติว่ามีขึ้นมาเหล่านี้..
- เขาจะช่วยเราได้นานเท่าไหร่
- เขาจะให้กำลังใจเรา จะช่วยเหลือเรา จะค้ำหนุนจิตเราให้มีกำลังได้มากเท่าไหร่
แม้แต่เป็นมนุษย์อยู่ ยังอยู่ร่วมกันอยู่ -- บางทีก็ยังได้บ้าง ไม่ได้บ้าง
มีกำลังจากสิ่งเหล่านั้น บุคคลเหล่านั้นบ้าง ไม่มีบ้างอยู่อย่างนั้น …
... แล้วทำไมล่ะลูก ทำไมเราจะต้องเอากำลังใจของเรา -ไปฝากไว้กับสิ่งภายนอก
ทั้งที่สิ่งต่างๆทั้งหลายเหล่านั้น.. ไม่มีความเที่ยงแท้ และไม่ได้จะอยู่กับเราตลอดไป
เมื่อกายนี้ดับไป-- จิตก็ต้องวนไป เดินทางต่ออยู่ดี
มาก็มาคนเดียว.. ไปก็จะไปคนเดียว
มามีเปล่า.. ก็ไปมือเปล่า
... แล้วเราจะไปฝากกำลังใจของเรา ไว้กับสิ่งอื่นๆทำไมล่ะลูก
สิ่งทั้งหลายเหล่านั้น เขาไม่ใช่เพื่อนแท้ของเรา ที่จะไปกับเราตลอดหรอก...
เขาเป็นสิ่งชั่วคราว เมื่อถึงเวลาที่ต้องพลัดพรากจากกันไป ก็ต้องเป็นไปเช่นนั้น
ดวงจิตของเรา ก็จะต้องไปอย่างโดยเดี่ยว เดียวดายอีกแล้ว
หากว่าเราไม่เข้าใจเช่นนี้ แล้วมีแต่ฝากกำลังใจไว้กับสิ่งภายนอก บุคคลภายนอก
เมื่อครั้งเราอยู่คนเดียวล่ะลูก > เราจะอยู่ได้หรือ และเราเองก็ไม่รู้ว่าช่วงเวลานั้นจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ?
จงดูที่กำลังใจตนให้ดี คือ การก่อเกิด กำลังใจในตัวในตนของตนนั้นเถิด
สร้างความมีกำลังเอาไว้ในจิตในใจตน ฝึกฝนจิตใจของตนนั้นให้เข้มแข็ง ให้มีกำลังเกิดขึ้นจากข้างในเถิด
เพราะนั่นเป็นกำลังใจที่แท้จริง และเราจะสามารถนำไปด้วยได้ ในทุกที่ ทุกแห่งหน
บุคคลที่คอยการช่วยเหลือจากผู้อื่น เมื่อไม่มีผู้อื่นแล้ว-- ตนย่อมไม่สามารถที่จะดำเนินชีวิตต่อไปได้.. ลูกเอ๋ย
แต่หากว่าเรานี้ เข้มแข็งด้วยตนเอง ไม่รอความช่วยเหลือจากใคร-- เมื่อไม่มีคนอื่น เราก็ยังเดินต่อไป.. ลูกเอ๋ย
ชีวิตการเดินทางนั้นยาวไกลนัก.. จงฝึกจิตของตนให้มีกำลังเถิด
และแท้ที่จริงนั้น กำลังใจของเราคนเรา ก็อยู่ในดวงจิตของเรานี่แหละ ขึ้นอยู่กับว่า ...
.. เราจะมองเห็นมันหรือเปล่า
.. จะทำให้มันมีกำลังใจขึ้นมาหรือเปล่า
.. และเรานี้ชอบโยนมันไปไว้ข้างนอก ไปคอยกำลังใจจากข้างนอกหรือเปล่า
กำลังใจของคนเรา ขึ้นอยู่กับที่เราเอาไปตั้งไว้ ว่าจะเอาอะไรมาเป็นกำลังใจ
... แต่ท้ายที่สุด กำลังใจนั้น ก็มา "เกิดขึ้นในจิตใจของเรา" อยู่ดี...
เพียงแต่ว่าสิ่งทั้งหลายที่มาจากภายนอกนั้น ไม่เที่ยงแท้ ไม่ใช่กำลังใจที่แท้จริงเท่านั้นเอง…
-- จงทำจิตใจของตนให้สงบ เพื่อเติมกำลังให้จิตใจของตน.. เพื่อตนนั้นจะได้มีแรงใจที่จะเดินทางต่อไปเถิดลูก --
สาธุ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 25, 2016, 08:52:49 pm โดย thanapanyo »

บันทึกการเข้า