ผู้เขียน หัวข้อ: Rec-0470 ความยุติธรรม  (อ่าน 1565 ครั้ง)

thanapanyo

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4507
    • ดูรายละเอียด
Rec-0470 ความยุติธรรม
« เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2015, 04:53:40 am »




ธรรมะเปิดโลก วันที่ 24 กรกฎาคม 2558
ตอนที่ 97 **ความยุติธรรม**
เมื่อพระยาธรรมิกราชได้เข้าเฝ้าต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ท่านได้ทรงแสดงธรรมกลับมา ดังนี้ว่า
- - - -
ลูกทั้งหลายเอ๋ย.. บ่อยครั้ง หลายครั้ง ที่ลูกๆ ทั้งหลาย
/ คงยังถามหาว่า ความยุติธรรมนั้นมีอยู่มั้ย
/ คงยังถามหาว่า ความยุติธรรมนั้นอยู่ที่ไหน อยู่ตรงไหน.. แล้วก็เหนื่อยกับความยุติธรรมนั้น..
บางทีก็เจอ บางทีก็ไม่เจอ..
แต่ทั้งสิ่งที่เจอและไม่เจอนั้น --มันคือสิ่งที่ลูกทั้งหลาย ได้คิดเองเท่านั้น + +
แต่แท้ที่จริงแล้ว ความยุติธรรมที่แท้จริงนั้นเกิดขึ้นมาจากใคร
- ใครคือคนกำหนด
- ใครคือคนลิขิต
- ใครคือคนตัดสินว่าต้องเป็นอย่างนั้น อย่างนี้
ลูกทั้งหลายเอ๋ย.. ในวันนี้ให้ลูกทุกๆคน ได้ทำความเข้าใจ รู้จักกับความยุติธรรม...
- ความยุติธรรมที่แท้จริง มีหรือเปล่า
- ความยุติธรรมที่แท้จริง มีแล้ว เป็นแบบไหน อยู่ที่ไหน
... ลูกนั้นเคยเข้าถึงแล้วหรือยัง/ เคยเข้าใจความยุติธรรม แล้วหรือยัง ...
ลูกทั้งหลาย.. วันนี้ให้ลูกทุกๆคนตั้งใจสดับฟัง และทำความเข้าใจกับความยุติธรรมนี้เถิด
ลูกทั้งหลายเอ๋ย.. ความยุติธรรมนั้นมีอยู่ อยู่กับกฎของกรรม
< *กฎของกรรม* เท่านั้น--ที่เป็นสิ่งที่ยุติธรรมอย่างแท้จริง >
กรรมอันใดที่ใครทำไว้แล้ว > กรรมนั้นย่อมสนองคืน.. ไม่ว่าจะดีหรือชั่ว
หากกรรมอันใดที่ไม่ได้ทำไว้แล้ว.. กรรมอันนั้น จะไม่สนองกลับมา
**นี่คือความยุติธรรมที่มีอยู่- อยู่ในกฎของกรรม**
แต่มนุษย์เรามักจะคิดเองอยู่ตลอดว่า มันไม่ยุติธรรมกับเรา มันไม่ถูก มันไม่ถูกต้องเลย-- เพราะเราคิดเอง
บางครั้งถ้าเราไปเจอเหตุการณ์หนึ่งที่ไม่ค่อยถูกต้อง และไม่เป็นเหมือนที่เราเห็น //หรือรู้ว่ามันผิดหรือถูก ตามใจของเรา > เราก็มักจะตัดสิน แล้วก็คิดว่า “มันไม่ยุติธรรมกับตน”
-- แต่แท้ที่จริง กฎของกรรมได้คุมเอาไว้อยู่แล้ว --
< หากว่าเราไม่เคยได้ไปทำการกระทำนั้นไว้ --การกระทำย่อมไม่เกิดขึ้นกับเรา >
แท้ที่จริง สิ่งทั้งหลายที่เกิดขึ้นกับเรา แล้วเรารู้สึกว่า มันไม่ยุติธรรมกับเรา ณ ปัจจุบันนั้น ณ ตอนนั้น..
มันเป็นสิ่งที่เราคิดเองว่า “มันไม่ยุติธรรม” !
ในเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่อดีตชาติหรือปัจจุบันชาติ-- การกระทำของเราอันนั้น เราย่อมต้องเคยทำเอาไว้แล้ว
.. มันจึงส่งผลมาให้เราได้รับผลของมัน
เพียงแต่ว่าเรา อาจจะมองไม่เห็น หรืออาจจะลืมไปแล้วว่าเราเคยทำสิ่งนั้นมา /สิ่งนี้มา..
> วันนี้มันก็เลยมาเกิดกับเรา เป็นกับเรา เป็นเช่นนั้นแหละลูก...
กฎของกรรมคุมไว้ทั้งหมด
กฎของกรรม เที่ยงแท้แน่นอน ไม่มีเอียงไปทางใดทางหนึ่ง ไม่มีเอียงไปเข้าข้างใคร
ทีนี้เราเจอกับสิ่งต่างๆที่กระทบเข้ามา ให้เราไม่ต้องเอา “ตนเอง” เป็นที่ตั้ง แล้วก็ตัดสินเองว่า
“สิ่งนี้ยุติธรรม/ สิ่งนี้ไม่ยุติธรรม” เป็นเช่นนั้น
ให้เราเอาทุกสิ่งทุกอย่างฝากไว้กับ *กฎของกรรม*
ให้จงท่องไว้เสมอว่า
** กรรมอันใด ถ้าไม่ทำไป > ย่อมไม่เกิดกับเรา
** กรรมอันใด ถ้าได้เคยทำไปแล้ว > ย่อมต้องกลับมาสนองคืน เกิดกับเรา
เหตุการณ์นี้ อาจจะเป็นเหตุการณ์หนึ่งที่เราเคยกระทำไว้แล้ว ในอดีตกาลก่อน
...และวันนี้มันก็เลยส่งผลมาให้เราต้องได้รับเช่นนี้
ช่างมันเถิด อโหสิกรรมไป !
ปล่อยให้มันทำไป / เป็นไป และเราจะได้หมดหนี้กรรมไป 1 เรื่อง /หมดหนี้กรรมไป 1 ข้อ
หากว่าเราทำเช่นนั้น เป็นเช่นนั้น เกิดอะไรขึ้นลูก “ความสบายใจ”ก็เกิดกับเรา
เราก็ไม่โทษผู้อื่น ไม่เป็นทุกข์ เร่าร้อน ไม่ไปเรียกร้องหาความยุติธรรมที่ไหน ...
จบลง แค่ตรงที่เรา “อโหสิกรรม” -- ยอมรับในสิ่งที่เป็นไป
ทีนี้ ความยุติธรรมเกิดขึ้นกับเราแล้ว เพราะว่าเราสบายใจ / ไม่ทุกข์ /ไม่สนใจ ในสิ่งที่กระทบมาทั้งหลายนั้น
เราปล่อยวางกับมันแล้ว ช่างมันเถิด
.. นั่นแหละลูก ความยุติธรรมได้เกิดขึ้นกับลูกแล้ว …
ลูกทั้งหลายเอ๋ย.. หากว่าเราดิ้นรนเรียกร้องความยุติธรรม โดยที่เราไม่ยอมมองให้เห็นความเป็นจริงว่า ...
บางทีเราอาจจะเคยไปทำอะไรกับใครเขาไว้ ตั้งแต่ในภพใด ชาติใด หรือว่าในชาติปัจจุบันนี้
แต่ว่า เราอาจจะลืมไปแล้ว / หรือว่ามองไม่เห็นความผิดตนเอง
> เพราะว่าชอบเข้าข้างตนเองโดยสัญชาติญาณอยู่แล้ว…
ในมนุษย์เรา.. มักจะมองว่าสิ่งที่ตนทำนั้น- เป็นสิ่งที่ถูก > จึงมองข้ามความผิดของตนเอง
เมื่อเราเจอปัญหานั้นกระทบกลับคืนมา -- เราก็ไปมองอีกว่า มันไม่ยุติธรรมกับเราเลย
ดิ้นรน เร่าร้อน แสวงหาความยุติธรรม / เรียกร้องความยุติธรรม
-- โดยที่เราไม่รู้ว่า เราได้ทำผิดมาในกาลก่อน หรือไม่ยอมรับ --
เรียกร้องไปได้อะไรลูก !
--ได้แต่ความทุกข์ /ได้แต่ความเร่าร้อน ที่มันจะกระทบเข้ามา มาทำร้ายทำลายเรา ทำให้เราต้องเป็นทุกข์ /จมอยู่ หาทางออกไม่เจอ เป็นเช่นนั้นแหละลูก..
-- ได้อะไรขึ้นมา เรียกร้องแล้ว >ได้แต่กรรมเพิ่ม ...
เหมือนสมมุติว่า กรรมอันนั้น-เราต้องชดใช้ไปให้มันหมด
-- แต่เรากลับไม่มองให้เห็นความจริง หรือยอมรับในสิ่งที่ได้รับนั้น --
> เรียกร้องไป ด่าคนนั้น ว่าคนนี้ .. บางทีก็โทษเทวดาฟ้าดิน ว่าตรงนั้นตรงนี้
... กลับเพิ่มบาป /เพิ่มกรรม / เพิ่มหนี้ ให้กับตนเองอีก
> แล้วลูกจะเจอความยุติธรรมมั้ยล่ะลูก !
ลูกทั้งหลายเอ๋ย.. จงจำเอาไว้เถิดว่า ..
**ความยุติธรรมนั้นมีอยู่จริง คลุมอยู่ในกฎของกรรม**
< หากว่า เราทำกรรมอันใด กรรมอันนั้นย่อมส่งผลกลับมา >
หากว่า เราปรารถนาที่จะได้รับความยุติธรรม เราต้องสร้างตนเองให้ยุติธรรมก่อน คือ
-- ไม่เบียดเบียนผู้อื่น
-- ไม่สร้างกรรม แม้ความคิด การกระทำเล็กๆน้อยๆ คำพูดเล็กๆน้อยๆ ที่จะไปเบียดเบียนทำให้ผู้อื่นเป็นทุกข์
> เราต้องสร้างความยุติธรรมที่ตัวของเราก่อน--
หากว่าเรามีความยุติธรรมอยู่ในตนเองแล้ว คือ
/ ไม่ละเมิดศีลข้อใด
/ ไม่เบียดเบียนต่อใคร
/ ไม่ทำความชั่วอันใดไว้แล้ว ..
.. เมื่อถึงเวลา ย่อมไม่มีสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นกับเรา
.. เมื่อถึงเวลา เราย่อมได้รับแต่สิ่งที่ดีๆ เข้ามา
ลูกทั้งหลาย.. บางคนอาจจะคิดขึ้นมาในใจว่า แล้วเราล่ะ “เราก็ทำแต่ความดีนะ ทำไมถึงได้รับเช่นนี้ เช่นนั้น”
ลูกทั้งหลายเอ๋ย.. กรรม /กรรมเก่า /ความชั่วเก่า ที่ลูกนั้นได้ทำไว้ตั้งแต่ในอดีตชาติก็ดี ในอดีตกาลที่ผ่านมาก็ดี สร้างสั่งสมเอาไว้ แล้วลูกยังไม่ได้ชดใช้มัน มันกำลังส่งผลมา
แต่เมล็ดพืช*ความดี*ที่ลูกเพิ่งจะหว่านลงไป มันก็กำลังจะงอกเงย งอกงามขึ้นมา ให้ลูกได้กิน ได้ทาน ได้ใช้.. ในตอนต่อไป
ลูกอย่างเพิ่งไปเร่งรีบ เร่าร้อน ไปคิดท้อ.. แล้วก็ไปดึงมา
ไม่ต้องไปคิดอะไรหรอกลูก > ก้มหน้าก้มตาใช้ไป
สิ่งที่เราต้องชดใช้ เราก็ใช้ไป
มีอะไรที่ไม่ดีผ่านเข้ามาในชีวิต เราก็ใช้ๆ มันไปให้หมด แล้วก็ไม่ต้องทำเพิ่ม
-- ก้มหน้า ก้มตา.. ทำแต่สิ่งที่ดี / เพิ่มแต่สิ่งที่ดี --
ในที่สุด กรรมของเราก็หมดไป
กรรมชั่ว /กรรมไม่ดีทั้งหลายเหล่านั้น เราก็ได้ชดใช้ไปหมดแล้ว.. ลบล้างไปหมดแล้ว โดยที่เราไม่สร้างกรรมชั่วเพิ่มขึ้น --เราก็มีแต่ *กรรมดี*
ทีนี้ความยุติธรรมที่เราได้สร้างเอาไว้ให้แก่ตนเอง คือ *ความดี*นั้น ก็ได้ก่อเกิดแก่ตัวของเรา
เราก็จะมองเห็นชัดเลยว่า
/ เราทำดีแล้วได้ดีแบบไหน
/ การทำชั่วแล้วได้ชั่วแบบไหน
/ ความยุติธรรมมีจริงหรือเปล่า
เราจะมองเห็นชัดมาก แยกออกมาได้ชัดเจน เพราะว่าเราไม่มีรอบกรรมเก่าที่ส่งผลมาแล้ว มีแต่กรรมใหม่ มันจะไว .. และเราจะแยกได้ชัดเจนมาก
สมมุติว่า เราไปว่าใครสักคำหนึ่ง แป๊บเดียวเท่านั้นแหละลูก ก็จะมีคนมาว่าเรากลับเลย
.. เราก็จะเห็นความยุติธรรมว่า “มันยุติธรรมจริงๆเลยหนอ”
+ แม้เราผิดพลาดไปแป๊บเดียวเท่านั้น มันส่งผลกลับมาเลย
+ แม้เราสร้างกรรมเบียดเบียนอะไรไป นิดเดียวเท่านั้น มันก็ตีกลับมาเลย
ความยุติธรรมมีจริง // ความยุติธรรมนั้นมีอยู่
- ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองเห็นความยุติธรรมนั้นหรือเปล่า
- ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองเห็นมันจริงๆหรือว่าเราเอามาตัดสินด้วยตัวของเราเอง // หรือว่าเราเอาตนเป็นใหญ่ เอาตนเป็นที่ตั้ง // ตัดสินใจผิด-ถูก ด้วยตัวเอง // ตัดสินใจว่ามันยุติธรรม-ไม่ยุติธรรม ด้วยตัวของเราเอง
เราไม่สามารถหรอกลูกที่จะไปตัดสินว่า อันนี้ผิด อันนี้ถูก อันนี้ยุติธรรม อันนี้ไม่ยุติธรรม ...
เพราะว่าเรา ยังเป็นผู้ที่ปนเปื้อนอยู่ /เป็นทุกข์อยู่ / เร่าร้อนอยู่ /จมอยู่
กระทำทั้งผิด กระทำทั้งถูก ปนเปื้อนกันอยู่ --เราจึงไม่สามารถที่จะไปกำหนดตามใจเราได้
มันเป็นสิ่งที่เราคิดเอง เพิ่มความคิดให้เราเอง เพิ่มทุกข์ให้เราเอง
-- เปิดโอกาสให้เราสร้างกรรมเพิ่มขึ้นมา..ด้วยตัวของเราเอง --โดยที่เรานั้นคิดไป ทำไป
ลูกทั้งหลายเอ๋ย.. ความยุติธรรมนั้นเขามีอยู่จริง เราไม่ใช่ผู้ตัดสิน “การกระทำ” ต่างหาก คือ “สิ่งที่ตัดสิน”
หากว่าเราปรารถนาได้รับความยุติธรรม ให้เกิดขึ้นกับเรา
> เราจงสร้างความยุติธรรมให้ขึ้นมาในเรา .. แล้วในที่สุดความยุติธรรมนั้นก็จะเกิดขึ้นกับเราเอง
บุคคลที่มองเห็นความยุติธรรม ว่ามีอยู่จริงนั้นแล้ว ย่อมเป็นผู้ที่มองเห็น *กฎของกรรม*
บุคคลที่ยังมองไม่เห็นความยุติธรรมว่ามีอยู่จริง
.. บุคคลเหล่านั้น ย่อมเป็นบุคคลที่มองยังไม่เห็นกฎของกรรม
หากลูกปรารถนาที่จะเห็นความยุติธรรมที่แท้จริง ลูกจงมองให้เห็น*กฎของกรรม*เถิด
แล้วลูกจะเข้าใจ- จะรู้- จะเห็นด้วยตัวของลูกเองว่า --
* ความยุติธรรมนั้นมีอยู่จริง.. มีอยู่ที่ไหน
* เราต้องทำยังไง.. เพื่อให้เราได้รับความยุติธรรมมา
ลูกทั้งหลายเอ๋ย.. ความยุติธรรมนี้ไม่ลำเอียงไปทางใดทางหนึ่ง // ลำเอียงไปหาบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
ทุกคนไม่มีใครหนีพ้น..
// เกิดมา ตามกรรมของตน
// ตายไป ตามกรรมของตน
// เวียนวน ตามกรรมของตน
// ทำกรรมอันใด ได้กรรมอันนั้น
< ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ไม่มีสิ่งใดที่จะอยู่ตลอดไปได้ >
จงตั้งใจประพฤติ ปฏิบัติ สร้างความดี เพื่อให้ตนนั้นเข้าถึงความยุติธรรมให้ได้เถิด...
แล้วลูกจะได้พบกับความยุติธรรมที่ลูกนั้นมักจะเรียกร้องอยู่บ่อยๆ
-- จงกระทำเช่นนี้ อย่างนี้ ทุกๆคนเถิด --
สาธุ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 25, 2015, 04:56:25 am โดย thanapanyo »