ผู้เขียน หัวข้อ: Rec-1295 ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่าง  (อ่าน 1124 ครั้ง)

thanapanyo

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4507
    • ดูรายละเอียด
Rec-1295 ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่าง
« เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2015, 06:28:36 am »




ธรรมะเปิดโลก วันที่ 12 กรกฎาคม 2558
ตอนที่ 85 **ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่าง**
เมื่อพระยาธรรมิกราชได้เข้าเฝ้าต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ท่านได้ทรงแสดงธรรมกลับมา ดังนี้ว่า
- - - -
พระยาธรรมเอ๋ย.. โลกใบนี้กว้างใหญ่นัก โลกใบนี้มีสิ่งต่างๆมากมาย และมันก็พัฒนาไปตามยุค เปลี่ยนแปลงไปตามเวลาอยู่ตลอด มันเป็นสิ่งที่ไม่เคยหยุดอยู่เลย มันอยู่ในความไม่เที่ยงแท้ มันอยู่ในการเปลี่ยนแปลง อยู่ในทุกขณะเวลาที่ผ่านไป ไม่ว่าจะเป็นผู้คน ไม่ว่าจะเป็นบ้านเมือง ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติก็ตาม
ทุกสิ่งทุกอย่างแปรเปลี่ยนไปอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่บางทีเราอาจจะไม่ทันสังเกต บางที่เราอาจจะไม่ได้ดูว่ามันเปลี่ยนไป เพราะว่าเรามัวแต่จมอยู่กับช่วงเวลาสั้นๆ ที่เราคิดว่ามันยาวนานนัก ที่อยู่ในกายเนื้อของเรานี้...
ในขณะที่เรามีเวลาแค่ 100 ปี และในเวลา 100 ปีนั้น โลกก็เปลี่ยนแปลงไปมาก
แต่เราอาจจะลืมสังเกต หรืออาจจะสังเกตไม่ชัดเจน -- จึงทำให้เรานี้ลืมเห็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลง
แต่แท้ที่จริงแล้ว พระยาธรรมเอ๋ย.. ในทุกนาทีที่กาลเวลาเปลี่ยนไปหมุนไป ทุกชั่วขณะนั้น ทุกอย่างบนโลกเปลี่ยนแปลงได้ อาจจะพัฒนาเพิ่มไปเรื่อยๆ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงต่างๆมากมายเกิดขึ้น และสิ่งต่างๆทั้งหลายที่เกิดขึ้นอยู่บนโลกนั้น มันเป็นสิ่งที่ศึกษาไปเท่าไหร่ก็ไม่จบ เพราะนานหลายล้านปีแล้ว
พระยาธรรมเอ๋ย.. ที่โลกใบนี้ ก็มีเช่นนี้ และปรับเปลี่ยนไปอยู่ตลอดเวลา…
บางคนมีอายุขัยเป็นล้านปี ก็ไม่สามารถเรียนรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้น //ที่มีอยู่บนโลกนี้ได้
... ศึกษาไม่ครบถ้วนสักที เพราะว่ามันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ...
ฉะนั้น พระยาธรรมเอ๋ย.. มนุษย์เรามีเวลาเพียงแค่น้อยนิด ถ้าเทียบกับความเป็นจริง ที่เราอาจจะมองไม่เห็นในความจริงนั้น.. จึงแอบคิดว่า อายุขัยของเรานี้มียาวนาน ทั้งที่แท้ที่จริงแล้ว ถ้าเทียบกับความเป็นจริง
อายุขัยของเรามีแค่นิดเดียวเท่านั้นเอง
พระยาธรรมเอ๋ย.. จึงไม่จำเป็นเลยที่เราจะต้องไปสนใจใน...
- สิ่งที่มี / ที่ก่อเกิดขึ้น/ ที่จะดับหายไป
- สิ่งที่เมื่อก่อนโน้นมีมา
- สิ่งที่อีกหน่อยจะมีเกิดขึ้น
/ ไม่จำเป็นเลยพระยาธรรมเอ๋ย.. หากว่า ลูกนั้นปรารถนาที่จะเข้าถึงความพ้นทุกข์ อย่างแท้จริง
/ ไม่มีความจำเป็นอะไรเลย พระยาธรรมเอ๋ย.. ที่เราจะไปนึกถึงสิ่งที่ผ่านมาแล้ว และนึกสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น
เช่น
บางคน อาจจะไปถกเถียงว่าในอดีตมีสิ่งนั้นมาบ้าง สิ่งนี้มาบ้าง
.. ถกเถียงกันไป เถียงกันมา ความเชื่อ ของแต่ละคนแตกต่างกัน จนหมดเวลาไปมาก
บางคนก็ไปกลัวว่า …
อนาคตจะมีภัยพิบัติรุนแรง ในอีกหลายร้อยปีข้างหน้า
อนาคตจะมีภัยพิบัติที่รุนแรง ในอีกหลายปีต่อไป
> จึงทำให้ตนมัวแต่กังวลถึงอนาคต ทั้งที่แท้ที่จริงแล้ว เราก็ไม่ได้อยู่ถึงตอนนั้นสักหน่อย ...
ถ้าเกิดว่า เราตั้งใจทำความดี แสวงหาทางพ้นทุกข์ ให้แก่ตน-- จึงไม่จำเป็นเลยที่เราจะต้องไปกังวลถึงเรื่องข้างหลังบ้าง ข้างหน้าบ้าง ยุคโน้นจะเป็นแบบไหน ยุคก่อนโน้นเป็นยังไงบ้าง
ให้เรามาตรวจดูที่ตัวของเรานี่แหละ ลูกเอ๋ย.. และศึกษาทางแห่งการที่จะเดินออกจากทุกข์ เพื่อเรานี้จะได้หลุดพ้น --นั่นคงจะดีกว่า
พระยาธรรมเอ๋ย.. เฉพาะบนโลกนี้ เราก็ไม่สามารถที่จะศึกษาจนรู้ทุกอย่าง จนจบและแจ่มแจ้งในทุกอย่างนั้นเลย และยังมีโลกอื่นๆ อีกเล่า ที่เราคนธรรมดาไม่สามารถมองเห็น/รู้ได้ ถึงแม้จะเป็นคนที่รู้ได้ แต่ก็ไม่สามารถรู้จนทั้งหมด
พระยาธรรมเอ๋ย.. โลกทิพย์ที่ยังคงซับซ้อน ยังคงซ่อนเร้นอยู่ในชีวิตหลังการตาย ชีวิตก่อนมาเกิดอีกเล่า เราจะค้นหาจนครบถ้วนได้ยังไง
.. โลกสวรรค์ เขาอยู่กันยังไง - รายละเอียดทุกสิ่งทุกอย่าง เราจะรู้หรือ
.. โลกแห่งเมืองบาดาล
.. โลกแห่งนรก จิตที่ถูกคุมขังและทำโทษอยู่
.. ไหนยังจะมิติต่างๆ จะเรียกว่า ในวัฏสงสารนี้
ในการเวียนวน เวียนว่ายตายเกิดต่างๆ เราจะรู้หรือลูก.. ว่ามีมากขนาดไหน ว่าเป็นยังไงบ้าง เราจะรู้ถึงทุกจุดหรือ !
พระยาธรรมเอ๋ย.. สิ่งต่างๆทั้งหลายเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่ตั้งอยู่บนความไม่เที่ยงแท้ ล้วนแล้วแต่อยู่ในสิ่งที่ยังคงเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาอยู่เสมอ
สวรรค์ ก็ยังมีผู้ปกครองที่ปรับเปลี่ยนไปเป็นคนใหม่-- เพราะก็ไม่เที่ยงแท้
วิมานแก้ว วิมานทอง ก็ยังมีตั้งขึ้นมา เกิดขึ้น พร้อมด้วยบุญของดวงจิตใดดวงจิตหนึ่ง
... และยังสลายไปพร้อมด้วยบุญนั้น..
สรรพสิ่งไม่มีความเที่ยงแท้ แล้วเราจะรู้ได้ในทุกอย่าง..ได้อย่างไรเล่า
สิ่งเหล่านั้น จึงไม่จำเป็นที่เราจะต้องไปรู้รายละเอียด เพื่ออะไรสักสิ่งหนึ่ง
ไม่มีความจำเป็นเลย…
ลูกทั้งหลายเอ๋ย.. สิ่งที่เราควรจะทำ ก็คือ ควรจะศึกษา *ทางพ้นทุกข์*
ซึ่งทางพ้นทุกข์ที่เราจะศึกษานั้น ก็ไม่ได้มีอะไรมากมายเลย.. ลูกเอ๋ย มีอยู่ไม่กี่เรื่อง ที่เราควรจะปฏิบัติตาม
-- เพื่อให้เรานี้ได้พบกับความพ้นทุกข์ อย่างแท้จริง --
พระยาธรรมเอ๋ย.. ทางแห่งการพ้นทุกข์นี้ เป็นสิ่งที่เที่ยงแท้ ..
เพราะเที่ยงแท้ว่า.. ถ้าทำตามแล้วก็จะปรากฏผล คือ “ได้รับความเที่ยงแท้” ไม่กลับมาเกิด แก่ เจ็บ ตาย
// ชีวิตไม่ต้องวนเวียน เวียนว่ายตายเกิด พ้นจากความทุกข์ทั้งปวง...
นั่นคือ **ความเที่ยงแท้ในหลักธรรมทั้งหลาย**
พระยาธรรมเอ๋ย.. การศึกษาโลก การศึกษาการวนเวียน ศึกษาสิ่งอื่น ที่มากมายนั้น ไม่ได้มีความจำเป็นอะไรเลย เพราะว่ามันมีแต่จะทำให้เราเสียเวลา เพราะว่ามันมีแต่จะทำให้เรานั้นหมดเวลาไป.. ชาติแล้ว ชาติเล่า
สิ่งที่เราควรจะเรียนรู้ /ศึกษานั้น คือ “ทางแห่งการพ้นทุกข์” ต่างหาก
ศึกษาแล้วก็ปฏิบัติตาม เพียงน้อยนิด ก็จะทำให้เรานั้นพ้นทุกข์ได้ และจะมีที่สิ้นสุดแก่เรา คือ *ความพ้นทุกข์*
ไม่ว่ากี่ยุค กี่สมัย ไม่ว่าดวงจิตใดก็ตาม.. ถ้าต้องการแค่พ้นทุกข์ ก็แค่ปฏิบัติตามสิ่งที่ได้สั่งสอนเอาไว้ คือ ศีล ธรรม สมาธิ และปัญญา เพื่อดับการเกิดแห่งตน ยกระดับจิตของตน ออกจากสิ่งที่ครอบงำต่างๆ สลายอัตตาตัวตน แล้วก็เกิดความเป็นนิรันดร์ ไม่ต้องกลับมาเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นทุกข์อีก ไม่ต้องกลับมายุ่งวุ่นวาย กับโลกแห่งความไม่เที่ยงแท้นี้อีก
จงศึกษาสิ่งที่มีที่สิ้นสุดเถิด ลูกเอ๋ย.. เพราะว่ามันจะทำให้ลูกถึง”ความสิ้นสุดแห่งความทุกข์”
แต่การที่ลูกนั้น ไปวุ่นวายศึกษาเรื่องที่ไม่มีที่สิ้นสุดนั้น มันเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกไม่สิ้นสุดเลย เท่านั้นเอง
จงประพฤติ ปฏิบัติ กระทำตามธรรมคำสั่งสอน เพื่อความพ้นทุกข์แห่งลูกนั้นเถิด..
อย่ามัวแต่เป็นทุกข์ใจ กังวลถึงสิ่งที่ผ่านมา และสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นเลย ลูกเอ๋ย..
-- ความทุกข์ จะได้ไม่เกาะกวนใจ ทำให้ลูกนั้นมองไม่เห็นแสงสว่างแห่งแสงธรรม ที่เป็นสิ่งที่จะทำให้ลูกนั้นพ้นทุกข์ได้ --
สาธุ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 12, 2015, 04:45:28 pm โดย thanapanyo »