ผู้เขียน หัวข้อ: Rec-0979 เส้นทางชีวิต  (อ่าน 1072 ครั้ง)

thanapanyo

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4597
    • ดูรายละเอียด
Rec-0979 เส้นทางชีวิต
« เมื่อ: เมษายน 23, 2015, 07:25:34 am »




(ถอดความจากคลิป)

ธรรมะเปิดโลก วันที่ 23 เมษายน 2558
ตอนที่ 6 **ทางเดินของชีวิต**

+ +
ในเช้าของวันนี้ เมื่อข้าพระพุทธเจ้าได้เข้าเฝ้านอบน้อมต่อองค์พระบิดา พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระองค์ท่านได้ทรงเมตตาแสดงธรรมกลับมา กับพวกเรา ดังนี้ว่า …
- - - -

พระยาธรรมเอ๋ย.. เส้นทางการเดินทางของชีวิต ลูกนั้นเข้าใจเส้นทางการเดินทางของชีวิตบ้างหรือเปล่า ?

เส้นทางการเดินทางของชีวิตทุกๆชีวิตนั้น ช่างซับซ้อนวนเวียน และทุกสิ่งทุกอย่างที่ซ่อนอยู่ในการเดินทางอย่างไม่รู้จักจบสิ้นนั้น ทำให้จิตต่างๆทั้งหลายเหล่านั้น.. ต้องเป็นทุกข์ อย่างไม่รู้จักจบ

จิตหนึ่งดวง เขาจะมีการเดินทางไปตามชีวิตของเขา คือ ตามกรรมที่ได้สร้างทำไว้
..ไม่ว่าจะเป็นกรรมดี หรือกรรมชั่วก็ตาม -- ชีวิตของเขาก็จะเป็นไปตามเช่นนั้น …

พระยาธรรมเอ๋ย.. ถ้าจิตใดที่เกิดมาในชาติหนึ่งได้สร้างสั่งสม ทำบุญ ทำทานเอาไว้ - ตายไปในภพหน้า ชาติใหม่ ก็อาจจะไปเกิดเป็นนางฟ้า หรือเทวดาที่ร่ำรวย  แม้เกิดมาเป็นมนุษย์อีก - ก็จะเกิดมาเป็นมนุษย์ที่ร่ำรวย มีเพียบพร้อมด้วยทรัพย์สิน ข้าวของ เงินทอง

แต่ไม่ว่าเรานั้นจะไปเกิดเป็นคนรวยแล้ว หรือเป็นเทวดาที่รวยแล้วก็ตาม
... เราก็จะไม่สามารถยื้อเอาความรวยนั้นไว้ได้เลย …

พระยาธรรมเอ๋ย.. ถึงแม้ว่าจะเกิดเป็นเทวดาที่ร่ำรวย มีทรัพย์สินมากมาย ตามบุญที่ได้สร้างสั่งสมมานั้น..
แต่ความรวยในโลกสวรรค์นั้น ก็ไม่ได้เป็นที่ที่เที่ยงแท้ -- เพราะการเดินทางของจิตในวัฏสงสารนี้ ย่อมต้องมีการ"เปลี่ยนแปลง" ไปตามกาลเวลา

หากว่าเรานั้นได้สร้างสั่งสมบุญไว้เท่าไร ทรัพย์สมบัติ สิ่งที่เรามีนั้น.. ก็จะมีไว้นานเพียงเท่านั้น
ถ้าหมดรอบแห่งบุญของตนแล้ว ทรัพย์สิน ข้าวของเหล่านั้นก็จะมลายหายไป
... ในที่สุด เราก็ต้องวนกลับมาเป็นมนุษย์อีก

ถึงแม้ว่าเราจะเกิดมาเป็นมนุษย์ที่ร่ำรวย แต่ถ้าเกิดว่าบุญกุศลเก่า / ความดีที่เราสั่งสมแล้วนั้นหมดไปแล้ว
-- เราก็จะต้องสูญเสียสิ่งต่างๆที่เราเคยมี เคยได้ ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินที่เราคิดว่าเป็นของเราเหล่านั้น
.. เมื่อถึงเวลา มันก็จะไม่ใช่ของเรา --
มันก็จะสูญเสียไป โดยมีเหตุต่างๆเข้ามาทำให้มันต้องสูญเสียไป
-- ถึงแม้ว่ามันจะไม่สูญเสียไปจากเรา.. ในวันหนึ่งเราก็ต้องพลัดพราก และจากมันไปอยู่ดี--
 
บางคน เมื่อครั้งเกิดมา มีเงินทองมากมาย ..ก็ลุ่มหลงอยู่กับเงินทองเหล่านั้นจนตาย..
พอตายไปแล้ว ไปในภพหน้าชาติใหม่ ไม่ได้สั่งสมบุญอะไรไว้ และยังทำแต่กรรมชั่ว คือ เบียดเบียน ด่าว่าผู้อื่น ดูถูกผู้อื่น
-- การกระทำเช่นนั้น ก็ส่งผลให้ตนต้องเกิดไปเป็นเปรต อสุรกาย สัตว์นรก เกิดมาเป็นสัตว์ต่างๆบ้าง --

ชีวิตการเดินทางของดวงจิตทุกๆดวง จะเดินทางไปตามกรรมของตน ที่ก่อที่ทำเอาไว้ และสิ่งที่เราจะกระทำนั้น มันก็ไม่มีอะไรแน่นอนเลย
บางชาติเกิดมา เราก็เกิดมาเจอกับบุญกุศล เจอกับสิ่งที่ดี ก็ได้สร้างสั่งสมบุญ
บางชาติเกิดมา ร่ำรวย มีเงินทอง เกิดความลุ่มหลงในเงินทองนั้น - ก็กลับกลาย เป็นคนไม่ดี
*กรรมที่ไม่ดี ก็จะส่งผลไปสู่ สิ่งที่ไม่ดี*
*กรรมที่ดี ก็จะส่งผลไปสู่ สิ่งที่ดี*
... ทุกอย่าง ก็เป็นไปตามกรรมเช่นนี้ เดี๋ยวก็ดี / เดี๋ยวก็ไม่ดี ...

ทุกสิ่งทุกอย่างนั้น ไม่มีความเที่ยงแท้เลย ในการเดินทางของชีวิตของจิตแต่ละดวง
ดีขึ้นมา ก็ได้เกิดเป็นเจ้า เป็นราชา
พอไม่ดีขึ้นมา ก็ได้เกิดเป็นเปรต อสุรกาย สัตว์นรก ต้องเกิดเป็นสัตว์ต่างๆ ก็มี

จิตทุกๆดวงที่เวียนว่ายตายเกิดนั้น ล้วนแล้วแต่เคยเกิดมาเป็นเช่นนั้นบ้าง เช่นนี้บ้าง เยอะแยะมากมาย
ทุกคนเคยตกนรก
เคยเกิดมาเป็นสัตว์
เคยเกิดมาเป็นคนรวย / เคยเกิดมาเป็นคนจน
เกิดมาเป็นคนที่ฆ่าเขา / เกิดมาเป็นคนที่เขาฆ่า
เกิดเป็นเทวดา นางฟ้า เทพบุตร
... เกิดเป็นสิ่งต่างๆแล้ว เยอะแยะมากมาย

ลูกทั้งหลายเอ๋ย.. การเดินทางของชีวิต เป็นเช่นนี้แหละลูก
หากว่าเรายังไม่หยุดการเดินทางของเรา ชีวิตของเราก็ยังคงต้องเดินทางต่อไปเรื่อยๆ …

ชาตินี้ เราเกิดมาในบ้านเมืองที่สงบ และเป็นสุข -- ก็อาจจะรู้สึกสงบ และสุขบ้างนิดหน่อย
แต่เมื่อครั้งเราต้องเดินทางต่อไปข้างหน้า ในภพหน้า ชาติใหม่ล่ะ.. ลูกเอ๋ย
เราต้องไปเกิดเป็นอะไร ในตระกูลแบบไหน
อยู่ในประเทศแบบไหน มีผู้นำเป็นอย่างไรเล่า
มีความสงบ หรือมีความวุ่นวาย -- นั่นก็เป็นการเดินทางของจิตเรา

ถ้าเรายังไม่หยุดจิตของเรา โดยการหยุดให้เดินต่อไป -- เราก็ยังคงต้องเผชิญผ่านพ้นกับสิ่งต่างๆ ที่อยู่ข้างหน้าของเรา ซึ่งที่ผ่านมา เราก็เดินทางมาไกลแสนไกลแล้ว และผ่านอะไรมาเยอะแยะมากมาย
... จนมาถึงวันนี้ ชาตินี้ ภพนี้ เราเกิดมา ก็ยังเป็นทุกข์อยู่ …
ทุกข์เพราะกินบ้าง
ทุกข์เพราะต้องการสิ่งนั้นสิ่งนี้บ้าง
ทุกข์ เพราะไม่ต้องการบ้าง
ทุกข์ เพราะแก่
ทุกข์ เพราะเจ็บ
และทุกข์ เพราะจะต้องตาย
... ต้องพลัดพรากจากสิ่งที่เป็นที่รัก สิ่งหวงแหนต่างๆทั้งหลายทั้งปวง มาลุ่มหลงอยู่ในโลกใบนี้

ลูกทั้งหลายเอ๋ย.. ชาติที่ผ่านๆมา เราก็เคยตายแบบนั้นแล้ว เคยตายแบบนี้แล้ว
บางคนเคยตาย เพราะถูกฆ่า
บางคนเคยตาย เพราะฆ่าตนเอง
บางคนต้องตาย ด้วยโรคนั้นบ้าง โรคนี้บ้าง
... เป็นเช่นนั้น ความทุกข์ไม่รู้จักจบสิ้น

ชาติที่แล้วก็ทุกข์เพราะเรื่องหนึ่ง.. ทุกข์เพราะเหตุนั้นบ้าง เหตุนี้บ้าง
ชาตินี้ เกิดมาก็ทุกข์ไปในอีกแบบหนึ่ง หรืออาจจะทุกข์แบบเดียวกัน ซ้ำๆ หลายๆภพชาติ

ลูกทั้งหลายเอ๋ย.. การเดินทางของชีวิตนั้น - จึงเป็นการเดินทางที่แสนยาก และลำบาก
แต่สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรเลย.. ก็ได้แต่ความทุกข์เท่านั้น

ความลำบากที่เกิดขึ้นกับเรา ทำให้เรานั้นต้องร้องไห้ ต้องเสียใจ กังวล เร่าร้อน และเป็นทุกข์อยู่ตลอดเวลา

** บุคคลที่ไม่รู้ความจริงของการเดินทางในชีวิต -- ก็ต้องเดินต่อไปเรื่อยๆ จนไม่รู้จักจบ **

ลูกทั้งหลายเอ๋ย.. เดินทางต่อไปเพื่ออะไรเล่า ลองพิจารณาดูให้ดีเถิด
- เราจะเดินทางต่อไป ในวัฏสงสารอันกว้างไกล และไม่มีที่สิ้นสุดนี้ เพื่ออะไร ?
- เดินทางต่อไปทำไมกันเล่า ?
- เดินไปแล้วได้อะไร ?

จงพิจารณาเถิด ลูกเอ๋ย.. การเดินทาง เดินไปแล้ว เกิดอะไรกับเรา - หาคำตอบให้เจอกับตนเอง
แล้วจงแสวงหาการดับทางเดินของจิตตนเถิด.. เพื่อจะได้ไม่เป็นทุกข์อีกต่อไป

ส่วนใหญ่แล้ว คนที่เดินทางไปนั้น เขาเป็นคนที่ไม่รู้ - ไม่รู้ในการเวียนวน ไม่รู้ว่ามีการหยุด ไม่รู้ว่า มีการเดินต่อไป
... เขาจึงยังหลงอยู่เช่นนั้น และทุกข์อยู่เช่นนั้น...

ลูกทั้งหลายเอ๋ย.. จงศึกษาทางเดินของชีวิตให้แก่จิตตนเถิด เพื่อลูกนั้นจะได้เข้าใจ และนำทางจิตแห่งตนออกจากการเดินทาง.. เพราะแท้ที่จริงแล้ว เดินทางไปก็ไม่ได้อะไร และไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย !

และเหตุที่เดินไป เพราะอะไร...

ลูกทั้งหลาย.. เหตุที่เราต้องเดินไป เพราะเรานั้น ยังไม่รู้ ไม่รู้ตามความเป็นจริงว่า ...
แท้ที่จริงการเดินทางนั้น คือ*ทุกข์*
แท้ที่จริง ไม่ได้ก่อเกิดประโยชน์อะไรกับเราเลย นอกจากเสียเวลาเปล่าๆ ทุกข์เปล่าๆ

ไม่ว่าเราจะเดินทางมาแล้ว ไม่รู้กี่ภพชาติ บางคน อาจจะเป็นแสนชาติก็มี ล้านชาติก็มี
แต่จนป่านนี้แล้ว ดูเถิด ลูกเอ๋ย.. ลูกได้อะไรมาบ้าง จากการเดินทางมา เป็นล้านๆชาติ เป็นแสนๆชาติ
... ถืออะไรมาได้บ้างหรือเปล่า จากการเดินทางนั้น ?

ลูกทั้งหลายเอ๋ย.. บางชาติ เกิดมาเป็นคนร่ำรวย มีเงินทองมากมายมหาศาล
แต่ทำไม บัดนี้เราเกิดมาในชาตินี้ - ไม่เห็นจะเอาอะไรมาได้เลย

บางชาติ เกิดเป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ แต่พอมาในชาตินี้ ทำไมถึงเกิดมาช่างด้อยค่าเหลือเกิน
ทำสิ่งใด ก็ไม่เห็นจะเป็นเหมือนที่คิดที่หวังเลย ...

ลูกทั้งหลายเอ๋ย.. การเดินทางของชีวิต จึงเป็นสิ่งที่เรานั้น เอาอะไรมาด้วยไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าจะเดินไปเพื่ออะไร
ที่ผ่านมา ก็เปล่าประโยชน์ สูญเปล่า.. เหนื่อยก็เท่านั้น / ทุกข์ก็แค่นั้น
แสวงหาความสุขทางโลกไป ก็เท่านั้น ไม่เห็นจะมีอะไรเลย
เดินมาจนป่านนี้แล้ว ก็ยังนั่งคอตก นั่งทุกข์ นั่งเศร้าอยู่อย่างเดิม
... แล้วจะไปต่ออีกหรือลูก ?

บุคคล ที่ไม่รู้เช่นนี้เท่านั้น.. เขาจึงเดินต่อไปเรื่อยๆ
แต่ลูกจงพิจารณาให้รู้เถิดว่า ..
/ เดินต่อไป เพื่ออะไร
/ เกิดประโยชน์อะไรบ้าง
/ เดินต่อไป เพราะอะไร

แล้วศึกษาในสิ่งเหล่านั้น ให้เข้าใจ
เดินไปเพื่อสิ่งใดนั้น - ไม่มีเพื่ออะไรเลย  นอกจากได้แต่ความว่างเปล่า
เดินไปเพราะอะไรนั้น เพราะเรายังลุ่มหลง และคิดว่าสิ่งต่างๆเหล่านั้น เป็นตัวตน / เป็นเรา / เป็นของเรา
... จึงยังแสวงหา ภพแล้ว ภพอีก ชาติแล้ว ชาติอีก…

แต่แท้ที่จริง ลูกทั้งหลายเอ๋ย.. ไม่มีอะไรเป็นเรา / เป็นของเราเลย
มีแต่ **สิ่งสมมุติ** ทั้งนั้น
เราจะทุกข์ จะเหนื่อย จะลำบาก จะเกิดแก่เจ็บตาย เพราะมันกี่ภพกี่ชาติก็ตาม.. ก็ยังไม่เห็นมีสิ่งใดที่ดีเลย

จงนำจิตแห่งตนออกจากกองทุกข์ ด้วยการหยุดเดินทางเถิดลูก แล้วจะได้ไม่เหนื่อยอีกต่อไป

คนผู้หนึ่งถึงแม้จะเดินทางไกลแสนไกล รอบโลก แต่เดินไปมาแล้ว..ก็ไม่ได้อะไรเลย
และในการเดินทางนั้น ช่างเหน็ดเหนื่อย และทุกข์ยากลำบากเหลือเกิน
-- คนผู้นั้น เมื่อเขารู้แล้วว่า ถึงแม้ไปเดินมา.. ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร มีแต่ความทุกข์ > เขาก็จะหยุดเดิน --

บุคคลผู้หนึ่ง ที่เขายังไม่รู้ความจริงข้อนี้ - เขาจึงยังปรารถนาที่จะเดินทางรอบโลก เพื่อไปแสวงหาสิ่งนั้นบ้าง สิ่งนี้บ้าง เขาจึงไปด้วยความเหน็ดเหนื่อย ไปเพราะความลุ่มหลง และคิดไปต่างๆนานา 
แต่สิ่งที่เขาได้นั้น คือ ความทุกข์ยากลำบาก อุปสรรคที่ต้องเผชิญ ความเหน็ดเหนื่อย และการเสี่ยงต่อชีวิตของตนให้ตายแล้ว ตายอีก อยู่เช่นนั้น

ลูกทั้งหลายเอ๋ย..
บุคคลที่ยังไม่รู้เท่านั้น ที่เขายังเดินไปอยู่
บุคคลที่รู้แล้วว่าเดินไปไม่ได้อะไร - เขาย่อมหยุดเดิน...

-- จงพิจารณาเส้นทางการเดินทางของชีวิต..ให้แจ่มแจ้งและทำความเข้าใจ ให้เข้าถึงความเป็นจริงเพื่อพ้นทุกข์เถิด --

สาธุ

๐ / ๐


 




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 17, 2016, 03:19:18 pm โดย thanapanyo »