« เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2016, 07:00:37 am »
(ถอดความจากคลิป)
พุทธโอวาทกึ่งพุทธกาล วันที่ 18 กรกฎาคม 2559
ตอนที่ 9 **ธรรมะอยู่ที่ไหน**
+ +
ณ พุทธอุทยานภูสวรรค์ พระพุทธองค์ได้เสด็จลงมา ด้วยฉัพพรรณรังสีสว่างเจิดจ้า คลุมในพื้นที่แห่งนี้ พร้อมทั้งได้แสดงธรรมแก่เราทั้งหลาย ดังนี้ว่า...
- - - -
ลูกทั้งหลายเอ๋ย.. การที่ดวงจิตทั้งหลาย.. ที่ยังวนเวียนเวียนว่าย ตายเกิดอยู่ในวัฏสงสารนี้ -- ก็เป็นเพราะว่า ไม่เข้าใจในตัว ในตนของตน ++
พระยาธรรมเอย.. เมื่อบุคคลไม่เข้าใจในตัวในตน / ในสิ่งที่เป็นของๆตน -- ก็เลยยังทำให้ยังจมอยู่กับความทุกข์
เมื่อดวงจิตใดก็ตามที่สามารถทำความเข้าใจ ให้ตนนั้นเข้าใจในความเป็นจริง ที่ซ่อน ที่ซ้อนอยู่ในชีวิตของตัวตนนั้น -- ก็จะสามารถพ้นจากวัฏสงสารนี้ไปได้ ...
ลูกเอ๋ย.. ฉะนั้น บุคคลที่จะเข้าใจ หรือแสวงหาธรรมะได้อย่างแท้จริง -- จึงควรที่จะประพฤติปฏิบัติ / แสวงหาสิ่งที่ซ่อนอยู่ในตัว ในตนของตนให้เจอให้ได้ - จึงจะเป็นผู้เข้าใจในธรรม
-- เมื่อเข้าใจในธรรมแล้ว จึงสามารถดับการเกิดของตนได้ ++
พระยาธรรมเอ๋ย.. ธรรมพระธรรมคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น - ก็เพียงแค่สอนให้ลูกทั้งหลาย.. เข้าใจความเป็นจริงของชีวิต
เข้าใจให้มาก
เข้าใจให้ลึก
เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง
ลูกเอ๋ย.. ฉะนั้น ธรรมะที่แท้จริง ก็อยู่ในตัวในตน ในตัวของลูกนั่นแหละลูก
- ที่เป็นคัมภีร์เล่มงาม
- ที่เป็นหนทาง แห่งทางพ้นทุกข์
- ที่จะทำให้ลูกแสวงหาธรรมะเจอ
จงหลับตาลงพิจารณา จงค้นหาในตัวในตนของตน เถิดลูก
ธรรมะพระธรรมคำสั่งสอนก็ได้มาจากความจริงของชีวิต พระพุทธองค์ทรงชี้ทางบอกแก่ลูกทั้งหลาย.. ให้เข้าใจ ความเป็นจริงของชีวิต
ลูกเอ๋ย.. ฉะนั้น ความเป็นจริงก็ซ่อนอยู่ในชีวิตของทุกคนนั่นแหละลูก ++
จงอย่ามัวแต่ไปแสวงหาธรรม ในที่นั้น ที่โน้นเลย..
จงอย่ามัวแต่ไปแสวงหา แต่เฉพาะในพระคัมภีร์เลย..
ลูกเอ๋ย.. **ทุกลมหายใจเข้าออกของชีวิต - ก็มีธรรมคำสั่งสอนอยู่ในนั้นเสมอ **
จงดูให้เห็น จงค้นให้เจอ...
เมื่อลูกเข้าใจและเจอธรรมในลูก -- ลูกก็จะสามารถเข้าใจในธรรมทุกสิ่งทุกอย่าง อย่างแจ่มแจ้ง
พระยาธรรมเอย.. ธรรมะซ่อนอยู่ในตัวเรา ในตัวของเราทุกคนนั่นแหละมีธรรมะ
และหนทางแห่งทางพ้นทุกข์นั้น ก็จะมีอยู่ในเรา **
ลูกเอ๋ย.. ในตัวในตนของเรานี้แหละลูก - สามารถให้เรานั้น เดินต่อไปได้ คือ "เวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร อย่างไม่รู้จักจบสิ้น" -- เพราะตัวของเราเอง มีความยึดมั่น ถือมั่น มีความลุ่มหลง ยึดถือในตัวในตน / ในสิ่งที่เป็นของของตน
ลูกเอ๋ย.. เราจะเดินทางต่ออยู่ร่ำไป โดยไม่จบสิ้น .. เพราะตัวเรานี้แล
และยังมีอีก คือเมื่อไหร่ก็ตาม ที่เรานั้นเข้าใจในตัวเราอย่างแจ่มแจ้ง -- เราก็สามารถหยุดการเดินทางไปในวัฏสงสารนี้ ได้ที่ตัวที่ตนของเรา เหมือนกัน
ลูกเอ๋ย.. เมื่อเราเข้าใจในตัวในตน / ในของของตนแล้ว ปล่อยวางในสิ่งเหล่านี้ได้หมด
-- เราก็จะพบหนทาง แห่งการสิ้นสุด
-- เราจะไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิด..อีกต่อไปแล้ว
พระยาธรรมเอ๋ย.. ฉะนั้น พระธรรมคำสั่งสอน ธรรมะ / แสงสว่าง / ทางพ้นทุกข์ก็มีอยู่ในเรา
ทางที่เราจะยึดติดผูกพันยึดมั่นถือมั่น ให้เดินทางต่อ ก็มีในเรา - ขึ้นอยู่กับว่า..
- เราจะมองเห็นธรรมคำสั่งสอน ที่มีอยู่ในเรา เข้าใจ ละ ปล่อยวางได้
- หรือเราจะยึดติด ยึดมั่นถือมั่น ลุ่มหลง เวียนว่าย ตาย เกิดต่อไป
จงแสวงหาธรรมในตนเถิด - เพราะจะเป็นธรรมที่สามารถตอบตนได้ดีที่สุด ++
+ +
พระยาธรรม :: เช่น แบบไหนบ้างเจ้าคะ ธรรมะที่มีอยู่ในตัวเรา
เราจะสามารถแสวงหาเจอ หรือรู้ได้อย่างไรบ้าง ว่าร่างกายของเรา จิตใจของเรา ตัวของเรานี้ เป็นธรรมะแบบไหน ?
ขอโปรดเมตตาด้วยเถิดเจ้าค่ะ เพราะอาจยังมีบางกลุ่ม บางคน ที่ไม่เข้าใจ หรือไม่รู้จักพิจารณาธรรมในตัวของตน น่ะเจ้าค่ะ
พระยาธรรมเอย..
*ธรรมะ* ก็คือความเป็นจริงของชีวิต ความเป็นจริงของสรรพสิ่งทั้งหลาย
*ธรรมะ* ก็คือสิ่งที่มันเกิดขึ้นกับเราทุกคน ทุกวัน เกิดขึ้นโดยไม่มีใครที่จะฝืนกับมันได้
ลูกเอ๋ย.. การเกิดขึ้นแล้วก็เป็นธรรมะ ++
เป็นธรรมะ คือชีวิตหนึ่งได้เกิดขึ้นมา - ก็ต้องมีการเจริญเติบโต ทำตามหน้าที่ของตน
ร่างกายก็จะแปรเปลี่ยนไป จิตใจก็จะคิด หรือมีความเปลี่ยนไป.. ตามวัย / ตามอายุขัย
เมื่อเติบใหญ่แล้ว ร่างกายก็จะเป็นร่างกายของผู้ใหญ่ ตามที่กายนี้จะเป็นไป คือ ความจริงของชีวิต
ลูกเอ๋ย.. เมื่อแก่ชราลงแล้ว ร่างกายนี้ก็จะเจ็บ จะป่วย จะทุกข์ทรมาน -- เป็นไปตามธรรมะ/ ตามธรรมชาติ ที่มีอยู่ในร่างกาย
เมื่อหมดเวลาอยู่บนโลกนี้แล้ว กายนี้ก็ดับลงไป.. โดยที่เรานั้นทำอะไรมันไม่ได้เลย
นั่นก็คือธรรมะ - เพราะมันคือ "ความจริง-ที่ทุกคนไม่อาจหนีพ้นได้"
ลูกเอ๋ย.. เกิด แก่ เจ็บตาย มีอยู่ในทุกคน อย่างนั้นใช่หรือเปล่าลูก ! จงพิจารณาดูเถิด
เมื่อการเกิด แก่ เจ็บ ตาย มีอยู่ในทุกคน -- สิ่งนั้นก็คือ *ธรรม*
ธรรมะก็คือ ความเป็นจริง - ความจริงที่ทุกคนไม่อาจฝืนได้...
ถ้าเกิดเราเข้าใจชีวิตเช่นนี้ ก็เท่ากับว่าเราเข้าใจ *ธรรมะในตัวของเรา*
เมื่อรู้เช่นนี้ แล้ว ความลุ่มหลงในกายก็จะเบาบางลง ความลุ่มหลงในสิ่งของข้าวของ
ความยึดมั่นถือมั่น ความสำคัญตน ลุ่มหลง ยกย่องตน
ความลุ่มหลงในตำแหน่งลาภยศสรรเสริญต่างๆ ก็จะเบาบางลง
-- เมื่อเป็นเช่นนั้น.. ก็เข้าใจธรรมะ / เข้าใจสิ่งที่มีอยู่ในโลกนี้ ++
ลูกเอ๋ย เมื่อรู้และเข้าใจเช่นนั้น - ก็จะแสวงหาทาง ดับสิ่งสมมุตินี้ให้ดับลงไป
-- เมื่อนั้นแหละลูก.. ก็จะเข้าใจธรรมะ --
หรือจะเป็นดั่งคำสมมุติอีกรูปแบบหนึ่ง ก็คือ การพิจารณาในสภาวะจิตใจ / ในความรู้สึก
ลูกเอ๋ย.. เด็กน้อยเมื่อลืมตาดูโลก ก็จะร่ำร้อง เพราะว่าต้องการกินให้อิ่ม - "ความต้องการ" ก่อเกิดขึ้นแล้ว
เมื่อพ่อแม่นั้นไม่มีความรักให้ เด็กน้อยก็ย่อมรู้สึกน้อยใจ
เมื่อเติบใหญ่ขึ้นมา เมื่อรู้ความ จำความได้ - ก็มีความต้องการสิ่งนั้นสิ่งนี้ แม้การกิน การอยากได้ อยากมี อยากเป็น ดิ้นรน -- พ่อแม่ก็ต้องแสวงหาให้
เมื่อเติบใหญ่.. ก็ต้องการความรัก ความเข้าใจจากทั้งพ่อแม่ และคู่ครอง
ความต้องการเหล่านั้น ก็มีอยู่ในเรา / เกิดขึ้นอยู่ในเรา..
หากเราทำความเข้าใจแล้ว -- เราก็จะเข้าใจธรรมะ /เข้าใจความรู้สึกที่มีอยู่ในเรา
ลูกเอ๋ย.. ความต้องการ ความไม่ต้องการ ความพลัดพรากจาก ความผิดหวัง- สมหวัง สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ที่มีอยู่ในจิตใจของเรา ก็คือ *ธรรมะ*
เมื่อเติบโตขึ้นมามีครอบครัว ก็มีความปรารถนา ให้ลูกหลานของตนเป็นเช่นนั้น เช่นนี้ ตามใจตนเองอีก
เมื่อแก่ชราแล้ว ..จิตใจก็ต้องการให้ลูกหลานนั้น ต้องมาคอยดูแลเอาใจใส่ และต้องการว่าจะไม่อยากพลัดพรากจากกันไป
ลูกเอ๋ย.. ความรู้สึกที่เราคิด ที่อยากให้เป็นเช่นนั้น /ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น ต้องการสิ่งนั้นสิ่งนี้
แล้วมาบวกเป็นความทุกข์ เป็นสิ่งที่มันเกิดขึ้นอยู่ในเรา -- นั่นก็คือ *ธรรม*
-- ขอเพียงแค่ให้เราเข้าใจ รู้ทัน.. เรา จะสามารถรู้จักธรรมะที่มีอยู่ในเรา ++
พระยาธรรมเอย.. เมื่อเรารู้ทันความรู้สึกเหล่านี้ เรามองเห็นเหตุของทุกข์ที่ซ่อนอยู่ในความรู้สึก ในจิตใจ ในกายนี้ -- ก็จะทำให้เราเข้าใจธรรมะ เข้าใจสิ่งที่เป็นธรรมดาที่เกิดขึ้นมีอยู่ในเรา..
และหากพิจารณาเช่นนี้บ่อยๆ ก็จะทำให้เรารู้จักทุกข์
เมื่อรู้จักทุกข์แล้ว ก็จะรู้จักการดับทุกข์
ชีวิตของเราทุกคน ก็จะดับความทุกข์ได้เพราะ "เข้าใจธรรมะ"
ลูกเอ๋ย.. ธรรมคำสั่งสอน จึงมีอยู่ในเรา
ธรรมะที่จะให้เราเรียนรู้อย่างแท้จริง ก็คือ ในตัวในตนของเรา
ธรรมะ ก็คือ การแสวงหาความจริงให้เจอในเรา
-- แล้วลูกก็จะเข้าใจในที่สุดว่า "ธรรมะคืออะไร" - หากลูกเข้าใจตัวเข้าใจตน / ปล่อยวางดับกายเกิดได้ ++ .. ลูกเอ๋ย
+ +
พระยาธรรม :: ลูกเข้าใจแล้วว่า ธรรมะมีอยู่ในตัวของเราทุกคน..
พระองค์ทรงสอนธรรมะให้เราเข้าใจความเป็นจริงของชีวิต- เพื่อดับการเกิด
หากเราต้องการแสวงหาธรรมะ -- เราต้องแสวงหาในตัวของเรา.. แล้วเราจะเจอ
.. ถ้าวันหนึ่งที่เราเข้าใจ "เรา"ทั้งหมดแล้ว.. เราก็จะดับการเกิดได้...
สาธุ เจ้าค่ะ
< >
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 01, 2016, 02:03:29 am โดย thanapanyo »

บันทึกการเข้า